thaiskyhost.com=> หน้าหลัก

Thai Sky แชร์ประสบการณ์ ฝึกสมาธิและการเข้าฌาณ ที่ได้ฝึกฝนมาหลายปี ซึ่งอาจจะถูกบ้างผิดบ้างแต่ข้อมูลต่างๆที่นำมาแชร์นั้นเขียนออกมาจากสภาวะอารมณ์ต่างๆที่พบเจอระหว่างการฝึกสมาธิ นอกจากนี้แล้วเรายังใช้เครื่องมือทางวิทยาศาสตร์มาตรวจสอบการฝึกสมาธิว่าที่ปฏิบัติมานั้นถูกต้องหรือไม่

 Muse Head Band เป็นเครื่องมือที่ใช้วัดคลื่นสมองขณะทำสมาธิ

โทร : 087-613-1076
Line ID : 0876131076
Email : tom_rrr@hotmail.com



   ค้นหา

ประสบการณ์ สมาธิ และแสงสว่างในสมาธิ มีจริงหรือไม่?







บันทึกวันที่ : 18/12/2560

สมาธิและแสงสว่าง


มันจะจริง เมื่อคุณได้เห็นมันด้วยตนเอง

มันจะไม่จริง เมื่อคุณไม่เห็นมันด้วยตัวคุณเอง


จากเดิมที่ผมเคยด่วนสรุปไปแล้วว่า การนั่งสมาธินั้นมันจะไม่เห็นแสงสว่าง จะมีแต่จิตที่สงบเท่านั้นถึงจะเป็นสมาธิที่สมบูรณ์แบบ แต่ความจริงแล้วในสมาธิมีอีกหลายเรื่องราวที่ผมยังไม่รู้จริงเห็นแจ้ง

ดังนั้นการด่วนสรุปไปเป็นสิ่งที่ไม่ดีเลย ช่วงหลังๆมานี้ผลของการปฏิบัติของผมนั้นทำให้ผมได้เข้าสมาธิที่เกิดแสงสว่างที่มาก จนทำให้ผมไม่สงสัยเลยว่าแสงสว่างในสมาธินั้นมีอยู่จริงๆ

หลายๆคนที่ปฏิบัติการนั่งสมาธิมักจะถกเถียงกันว่า สมาธิมีแสงสว่างมั้ย บ้างก็ว่ามีแสงสว่างในตอนที่จิตสงบลงสู่ฌาน บ้างก็ว่านั่งสมาธิจนสงบแล้วต้องไม่มีแสงสว่างใดๆปรากฎ ถ้ามีถือว่าจิตยังไม่สงบ

ต่างคนต่างก็ยกเหตุผลและประสบการณ์ที่ตนพบเจอ ทำให้คนที่เข้ามาศึกษาในเรื่องของสมาธิต่างสับสนและไม่รู้ว่าใครถูก ใครผิดกันแน่

ผมเองก็เป็นคนนึงที่เรียนรู้ทั้งสมาธิที่ไม่มีแสงสว่างและสมาธิที่มีแสงสว่าง ซึ่งผมพอจะให้คำตอบจากประสบการณ์ของผมเองซึ่งอาจเป็นแนวทางได้บ้าง ไม่มากก็น้อย โดยจะสรุปสั้นดังนี้

A : เหตุผลที่นั่งสมาธิแล้วเกิดแสงสว่างเพราะว่า... คุณนั่งสมาธิแบบรู้กว้างๆ , รู้ทุกสรรพสิ่งที่เกิดขึ้นกับร่างกายและจิตใจ โดยสภาวะรู้จะเป็นกลางๆ รู้ว่าทุกอย่างมันแยกกันอยู่ ของใครของมัน และทุกสรรพสิ่งมันก็เป็นของมันอย่างนั้นแหละ

B : เหตุผลที่นั่งสมาธิแล้วไม่เกิดแสงสว่าง เพราะว่า... คุณนั่งสมาธิแบบเพ่ง , แบบจดจ่อ , แบบให้สภาวะรู้แคบๆอยู่กับคำภาวนา , ลมหายใจ หรือสิ่งในสิ่งหนึ่งที่คุณยึดอยู่ และจดจ่อมันไปตลอดจนจบการนั่งสมาธิ

------------------

A : ประสบการณ์นั่งสมาธิ "เห็นแสงสว่าง" ของผม

และจากนี้ผมจะเล่าประสบการณ์ในการนั่งสมาธิที่เห็นแสงสว่างของผมนะครับ โดยการนั่งสมาธิของผมจะอยู่ที่ 45นาที - 1ชั่วโมงครึ่ง โดยประมาณ และเมื่อนั่งไปสักพักน่าจะประมาณครึ่งชั่วโมงได้แสงสว่างมันจะเริ่มปรากฎให้เห็นแบบน้อยๆ

จนรู้สึกได้ และเมื่อไหร่ที่เราสงสัยในแสง แล้วเราไปเพ่งที่แสง มันก็จะค่อยๆหายไป ยิ่งสงสัยยิ่งหาย  ดังนั้นผมจึงเอาแสงมาเป็นเครื่องฝึกฝนต่อจากการรู้ลมหายใจ โดยเมื่อแสงปรากฎผมจะทิ้งการรู้ลมหายใจเข้าออก และมาตามรู้แสงแทนครับ

การรู้แสงไม่ใช่การเพ่ง แต่การยอมรับตามจริงที่เราเห็น แสงมันจะสว่างก็รู้และยอมรับตามจริงว่ามันสว่าง แสงมันหายไปก็รู้และยอมรับตามจริงว่ามันหายไป มันจะเกิดๆดับๆสลับกันไปครับ ให้เรารู้ความสว่างเฉยๆครับไม่ต้องไปอยากเร่งแสงหรือไปอยากสงสัยอะไร

ถ้าสภาวะรู้ของเราเป็นกลางอย่างต่อเนื่อง แสงมันจะยิ่งจ้ามากๆจนเปลือกตาของคุณดิ้นระริก หรืออาจจะรู้สึกว่าแสบแต่ก็ได้ครับ (แต่จริงๆแล้วมันไม่แสบตานะครับ มันเป็น สัญญาขันธ์ ของเราเองว่าเจอแสงจ้าแล้วต้องแสบตา ให้รู้ตามจริงไปครับเดี๋ยวจิตกับร่างกายก็ปรับตัวเข้ากันได้เอง)

ถึงแม้ผมจะนั่งสมาธิแล้วเห็นแสงสว่าง ผมก็ยังไม่เชื่อในสิ่งที่เห็นครับ ผมจะพยายามพิสูจน์ให้ถึงที่สุด โดยการนั่งสมาธิตอนกลางคืนและปิดไฟในห้องให้มืดทั้งหมดครับ และแล้วผมก็ได้พิสูจน์ว่าแสงในสมาธิมีจริงหรือไม่? เราคิดไปเองมั้ย ถ้ามืดทึบขนาดไม่มีแสงเลย ตอนเราหลับตานั่งสมาธิจะเห็นแสงอีกหรือไม่?

และแล้วคำตอบก็ปรากฎชัดต่อหน้าต่อตาครับ แสงสว่างนั้นมันทำให้เราสามารถยืนยันได้ว่าห้องมืดทึบแต่เรากับเห็นแสงสว่างมากมายจนไม่อาจปฏิเสธได้ว่าแสงสว่างในสมาธินั้นไม่มี และไม่ใช่แค่ 1 - 2 วันที่ผมนั่งสมาธิแล้วเห็นแสงสว่าง
แต่ผมเห็นทุกครั้งที่ปิดไฟนั่งสมาธิ มันจะเริ่มเห็นเวลาผ่านไปแล้วประมาณครึ่งชั่วโมงตอนที่จิตเริ่มสงบลง

แสงสว่างในสมาธิจะแปรผันตรงกับสภาวะรู้ที่เป็นกลาง นั่นคือยิ่งจิตสงบเท่าไหร่แสงก็จะสว่างเท่านั้น  โดยหลักการคือเราจะไม่สงสัยสิ่งใดเลย เห็นแบบในก็แบบนั้น ให้รู้เป็นกลางๆ แสงจ้าก็คือจ้า แสงหายก็คือหาย ไม่ต้องไปอยากได้หรืออยากเร่งแสงสว่าง ถ้าเราจับจุดตรงนี้ได้แสงว่างมันจะจ้าขึ้นเรื่อยๆ

จนคุณจะรู้สึกได้เลยว่าแสงมันมาจากทุกทิศทางในห้องมืดนั้น เหมือนเรานั่งในห้องที่โดนสปอตไลท์ฉายอยู่ และที่สว่างมากสุดของผมก็คือความสว่างจ้า คล้ายเอาตาจ้องแสงไฟนีออนสีขาวใกล้ๆดวงตาเลย

แสงสว่างที่พบเจอจะเป็นสีขาว บางที่ก็สว่างจ้า บางทีก็นวลๆตา บางที่ก็สลัวๆ แสงพวกนี้เราควบคุมมันไม่ได้  มันเกิดก็ด้วยเหตุ(จิตสงบแบบสภาวะรู้) , มันหายไปก็ด้วยเหตุ(สงสัย , อยากได้ , ฟุ้งซ่าน)

ลักษณะของแสงสว่างมันไม่ใช่เป็นดวงๆ แต่มันจะสว่างทั้งขอบเขตของการมองเห็น 180 องศา คือเต็มสองลูกตาของเรา(ความรู้สึก)

แต่บางครั้งมันก็เกิน 180 องศา คือรู้สึกถึงแสงสว่างจากรอบทิศทาง ด้านหน้า , ด้านบน , ด้านข้าง , ด้านหลัง
 
แสดงภาพตัวอย่างที่ผมเห็นแสงในสมาธิ
ผมไม่รู้ว่าคนอื่นเห็นเหมือนผมมั้ย (เนื่องจากสมาธินั้นหลากหลาย)
ที่ทำภาพให้ดูเพื่อเป็นกรณีศึกษา + แชร์ประสบการณ์
ไม่ได้มุ่งเน้นให้ยึดติดในแสงสว่างครับผม


ภาพแสดง แสงสว่างในสมาธิ

เมื่อปิดไฟในห้องเพื่อให้มืดทั้งหมด
-------------------------------------------------------------

ภาพแสดง แสงสว่างในสมาธิ

แสงเริ่มสว่างนิดๆ แล้วหายไปแบบรวดเร็ว
-------------------------------------------------------------

ภาพแสดง แสงสว่างในสมาธิ

แสงเริ่มกระจายตัวแบบเห็นหมดทั้งภาพ
-------------------------------------------------------------

ภาพแสดง แสงสว่างในสมาธิ

แสงสว่างเริ่มจ้าขึ้นมาอีกระดับ และค่อยๆสว่างขึ้นและหรี่ลงสลับกันไปตามกำลังจิตที่สงบ


ภาพแสดง แสงสว่างในสมาธิ


ภาพแสดง แสงสว่างในสมาธิ

ภาพแสดง แสงสว่างในสมาธิ

แสงสว่างเต็มที่ก็จะขาวๆนวลๆ ดังรูปนี้นะครับ ผมพยายามเลือกโทนสีที่ใกล้เคียงที่สุดเท่าที่จำได้ครับผม ซึ่งภาพที่ได้จะเห็นเต็มสองตาคล้ายกับว่าไม่มีขอบเขตและแหล่งกำเนิดแสงครับผม

แต่ถ้าภาพจริงในสมาธิมีจะมีเรื่องของความสว่างเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยนะครับ  ในที่ผมนำเสนอก็แสดงได้แค่เพียงโทนสีของแสงสว่างครับ

-------------------------------------------------------------

แสงสว่างที่เกิดขึ้นไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม อาจจะเป็นการที่สมองปรุงแต่งขึ้นตอนที่ร่างกายสงบ หรืออาจจะเป็นที่จิตของเราไปรับรูปบางอย่างที่ตาเนื้อมองไม่เห็นก็ได้  แต่ทั้งหมดนี้เราก็ไม่ต้องไปยึดติดอะไร มันก็เป็นของมันอย่างนั้นแหละ

แค่เรารู้ว่าแสงสว่างที่มากนั้นคือสมาธิที่ก้าวหน้าตามความสว่างของแสงก็พอ เหตุผลเพราะเวลาเราเห็นแสงแล้วเกิดความสงสัยหรืออยากได้ความสว่างเพิ่มขึ้น แสงจะหายทันที แต่ถ้าเราเป็นกำหนดสภาวะเป็นรู้กลางๆ รู้กว้างๆ แสงมันจะคงอยู่และสว่างขึ้นเรื่อยๆ รวมถึงจิตที่สงบขึ้นเรื่อยๆด้วยเช่นเดียวกัน

จิตที่เปิดกว้างนอกจะรับรู้แสงสว่างที่ชัดเจนจนหายสงสัยในแสงแล้ว ยังทำให้เรารับรู้สิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นในขอบเขตของร่างกายได้ชัดจัด

------------------

B : ประสบการณ์นั่งสมาธิแล้ว "ไม่เห็นแสงสว่างของผม"

ก่อนหน้านี้ผมได้ฝึกสมาธิแบบจดจ่อและตั้งใจมากๆ ซึ่งผมตั้งใจไว้อย่างดีเลยว่าทุกสายลมหายใจเข้าออกนั้น ผมจะดูลมหายใจเข้าออกตลอดสายโดยไม่ให้พลาดแม้แต่ลมหายใจเดียว โดยการกำหนดการดูสายลมหายใจที่เริ่มจากวิ่งผ่านเข้าไปที่รูจมูก

ผ่านหลอดลมและเข้าไปในปอด จนกระทั่งดูลมที่อยู่ในปอดถ่ายเทออกมสู่ภายนอกรูจมูก  ถึงแม้จะเกิดสภาวะแผ่วเบาจนลมหายใจเกือบจะหายไป จนต้องเปลี่ยนเป็นดูสิ่งอื่นๆแทนเช่น ความวางเฉย เป็นต้น ก็ยังมีอาการที่เรียกว่าเพ่งอยู่

การเพ่งก็คือการเฝ้าดูอย่างจดจ่อ โดยใช้กำลังของสมาธิที่แน่วแน่ ไม่ยอมให้สิ่งที่ตั้งใจไว้คลาดเคลื่อน ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้นั้นจิตจะปิดแคบลง จะรู้แค่เฉพาะส่วนที่ต้องการเท่านั้น เมื่อจิตปิดแคบสภาวะรู้ก็ถูกปิดกั้นเช่นเดียวกัน ทำให้เราไม่รับรู้สิ่งอื่นใดนอกจากสิ่งที่เรากำลังเพิ่งอยู่ ดังนั้นแสงสว่างก็จะไม่ปรากฎให้เห็นเลย จะอยู่กับสมาธิที่เป็นความมืดสนิท ไม่มีอะไรที่เป็นแสงสว่างให้คุณเห็นอย่างแน่นอน

-------------------

 



ดูรายละเอียดทั้งหมด -> เมื่อวันที่ : 2021-11-18 12:23:57




นั่งสมาธิแล้วเห็นแสงสว่าง แสงดวงกลมๆ วิ่งไปมา คืออะไร





หลายๆท่านที่ฝึกสมาธิจนเริ่มเข้าที่เข้าทาง จิตนิ่งสงบ สงบนิ่งทั้งกายและใจ และกำลังตั้งมั่นอยู่กับกรรมฐานของตนอย่างเช่น ลมหายใจหรือพุทโธ แต่อยู่ๆก็ปรากฎแสงสว่างเป็นดวงๆวิ่งไปวิ่งมาให้เราเห็น แสงเหล่านี้สวยงาม เป็นดวงกลมๆบ้าง เป็นดวงๆมีเส้นสายแสงสีบ้าง มีดวงเดียวบ้าง มีหลายดวงบ้าง เห็นแล้วก็น่าตื่นตาตื่นใจจนรู้สึกว่าอยากเห็นมันอีก ในใจลึกๆก็แอบนึกไปว่าสมาธิของเราก้าวหน้าแล้ว

แท้ที่จิตแล้วส่วนตัวเชื่อว่าแสงดวงกลมๆวิ่งไปวิ่งมาให้เราเห็นนั้นเป็น เป็นการปรุงแต่งของจิต ซึ่งมักจะอาศัยเหตุปัจจัยในช่วงที่จิตเราเริ่มสงบนิ่งพอประมาณก็จะทำให้แสงดวงกลมๆเหล่านี้เกิดขึ้นได้ ซึ่งการเกิดขึ้นในแต่ละรอบของการนั่งสมาธินั้น มันจะไม่เกิดขึ้นในรูปแบบเดิม อาจจะมีการเปลี่ยนรูปทรงและสีสันตามสภาวะของกำลังจิตในขณะนั้น

และแสงกลมๆวิ่งไปวิ่งมานั้นมันยังสามารถมารพัฒนาต่อเป็นแสงสว่างสีขาวนวลเต็มจอภาพประสาทตา แต่ทำให้เรารู้สึกได้ถึงแสงสว่างที่เหมือนกับสปอตไลท์มาส่งรอบทิศทางแบบ 360 องศา และถึงแม้จะปิดไฟนั่งในห้องมืดสนิทเมื่อแสงสีขาวแบบนี้ปรากฎขึ้นมา คุณจะไม่มีความรู้สึกว่านั่งอยู่ในห้องมืดอีกเลยแต่จะทำให้คุณรู้สึกได้แบบว่ากำลังนั่งอยู่ในที่สว่างจ้าแบบใจสงบและมีความสุข แต่สุดท้ายแสงสว่างเหล่านั้นก็ยังไม่พ้นอำนาจการปรุงแต่งของจิต

กลับมาที่แสงดวงกลมๆ เล็กๆ วิ่งๆไปมาในนิมิต แสงเหล่านี้หากคุณเพิ่งได้สัมผัสและพบเจอใหม่ๆ ก็จะมีอาการตื่นเต้นอยากได้อยากเห็นอีก และเมื่อใดก็ตามที่คุณมีความรู้สึกพยามเพ่งด้วยความอยากแสงนั้นก็จะหายวับกลายเป็นฉากมืดๆเหมือนก่อนที่แสงจะปรากฎ และเมื่อไหร่ที่คุณเลิกคิดถึงแสงกลมวิ่งๆนั้น และทำสมาธิต่อด้วยจิตใจที่สงบและตั้งมั่น แสงกลมๆนั้นก็จะปรากฎให้คุณเห็นอีกครั้ง

เหตุใดการเพ่งแสงมันจึงหายไป , เหตุใดเราถึงไม่สามารถทำให้แสงเหล่านั้นค้างอยู่ได้

สาเหตุที่คุณไม่สามารถค้างภาพแสงเหล่านั้นไว้ได้ก็เพราะว่า คุณมีความอยากที่จะให้แสงอยู่กับคุณ และความอยากเป็นกิเลสเป็นข้าศึกของสมาธิ เมื่อใดก็ตามที่คุณเกิดความอยาก ความคาดหวัง ความต้องการในแสงสว่าง จิตของคุณจะเริ่มปรุงแต่งทับซ้อน เริ่มฟุ้งซ่าน ทำให้ระดับกำลังจิตลดลงกำลังสมาธิลดลงจนทำให้นิมิตแสงสว่างหายไป

หลายๆท่านรวมถึงผมเองที่เคยทำสมาธิแล้วเห็นแสงสว่างดวงกลมๆครั้งแรก ก็จะมีความคิดหวังว่าในการนั่งสมาธิครั้งต่อไป ฉันนี้แหละจะต้องเห็นแสงสว่างให้ดีอีก แต่เมื่อเอาเข้าจริงๆกลับทำไม่ได้อย่างที่ใจต้องการ แสงสว่างไม่ปรากฎและกลับทำให้จิตใจฟุ้งซ่านทำให้การทำสมาธิไม่สงบ ดังนั้นหากท่านใดที่เป็นเหมือนผมจะแก้ได้โดยการตั้งใจไว้ก่อนนั่งสมาธิว่า เราจะไม่สนใจแสงสว่าง ถ้ามันเห็นก็ปล่อยให้เห็น ถ้าไม่เห็นก็ไม่เป็นไร เห็นก็ได้ไม่เห็นก็ได้ ทำแบบนี้แล้วแสงสว่างจะปรากฎและทำให้เราไม่คาดหวังในนิมิตแสงสว่าง

แสงสว่างที่เราพบเจอในนิมิตนั้นยังไม่ใช่หนทางที่จะทำให้สมาธิก้าวหน้า แต่บางครั้งแสงเหล่านั้นกลับเป็นเครื่องขัดขวางมิให้เราทำสมาธิก้าวหน้าไปอีก เพราะใจเราจะมาห่วงแต่อยากเห็นแสงสว่างนั่นเอง

ดังนั้นการทำสมาธิแล้วเห็นดวงแสงสว่างกลมๆ เล็กๆ วิ่งๆ ไปมานั้น ส่วนตัวผมเชื่อว่าคุณทำสมาธิได้ดีแล้ว แต่คุณต้องปล่อยว่างในแสงเหล่านั้นไม่ยึดติดไม่คาดหวังแสงมันจะค่อยพัฒนาตัวเองให้สวยงามและมาหลอกล่อเราอยู่เรื่อยๆ ถ้าเรายืนกลางว่าฉันไม่สนใจ เห็นก็ช่าง ไม่เห็นก็ช่าง ทำใจเป็นกลางๆยอมรับในสิ่งที่เห็นเมื่อมันเกิด ยอมรับในสิ่งที่เห็นเมื่อมันหายไป แบบนี้จะทำให้คุณทำสมาธิก้าวหน้าได้อย่างแน่นอน




ดูรายละเอียดทั้งหมด -> เมื่อวันที่ : 2021-11-18 12:23:21




ขาย Muse 2 สมาธิ มือสอง ราคา 9,500 บาท ใช้สำหรับวัดผลการทำสมาธิ














เครื่องนี้ขายไปแล้วครับ
12/08/2564

-----------------------------
ขาย Muse 2 สมาธิ มือสอง ราคา 9,500 บาท ใช้สำหรับวัดผลการทำสมาธิ

ขาย Muse 2 สมาธิ มือสอง  ใช้สำหรับวัดผลการทำสมาธิของคุณได้อย่างแม่นยำ เครื่อง Muse จะแสดงผลลัพธ์ออกมาในรูปแบบของกราฟที่สามารถอ่านและเข้าใจง่าย

เครื่องนี้ผมซื้อมาใช้งานช่วงประมาณเดือน กุมภาพันธ์ ปี 2564

เหตุผลที่ต้องการขาย Muse 2 เครื่องนี้ เพราะว่าต้องการนำเงินมาลงทุนทำธุรกิจบางอย่างในช่วงยุคโควิดนี้ อันที่จริงแล้วก็ไม่ได้อยากขายและเสียดายเพราะปกติเป็นคนที่ชอบทำสมาธิทุกวันอยู่แล้ว แต่จะนำเครื่อง Muse มาวัดผลลัพธ์เป็นช่วงครั้งคราวที่อยากทราบความคืบหน้าของการทำสมาธิในแต่ละโอกาส

ความสามารถในการทำงานของ Muse 2
- วัดคลื่นสมองแสดงผลออกมาเป็นกราฟ
- การตรวจจับการเต้นของหัวใจ
- การตรวจจับลมหายใจ
- การตรวจจับท่าทางการนั่ง



เครื่อง Muse 2 ที่ผมจะขายนั้นมีอะไรบ้าง
- กล่อง
- เครื่อง Muse 2
- สายชาร์ท USB
- คู่มือการใช้งาน


------

หากคุณทำสมาธิแต่คุณก็จะยังไม่รู้เลยว่าที่คุณทำสมาธิอยู่ในทุกวันนั้นคุณสงบจริงหรือไม่ เพราะโดยมากแล้วคนเรามักจะเข้าข้างตนเองเสมอว่าฉันทำสมาธิแล้วสงบดี แต่แท้จริงแล้วความฟุ้งซ่านยังปรากฎอยู่ในทุกลมหายใจ แต่คุณไม่รู้ตัว

ซึ่งเครื่อง Muse2 จะสามารถตรวจวัดคลื่นสมองและให้คำตอบกับคุณอย่างตรงไปตรงมา เพราะสมาธิเป็นเรื่องทางจิตซึ่งส่งผลร่วมกับคลื่นสมอง ถ้าใจสงบคลื่นสมองก็สงบตามนั่นเอง

หากคุณมีความรักและความชอบในการฝึกฝนในด้านสมาธิ Muse2 จะช่วยวัดผลและเก็บสถิติการทำสมาธิของคุณ เพื่อให้คุณทราบผลลัพธ์ในการฝึกฝนอย่างตรงไปตรงมานำไปสู่การก้าวหน้าของด้านการฝึกอย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น

และนี่คือตัวอย่างรูปภาพกราฟคลื่นสมองที่ขณะทำสมาธิ ถ้าเรามีจิตที่สงบ กราฟคลื่นสมองก็จะลงต่ำและมีลักษณะค่อนข้างราบเรียบเป็นระเบียบ












หากสนใจสามารถโทรสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ตามเบอร์โทรที่ปรากฎอยู่บนหน้าเว็บไซต์แห่งนี้




ดูรายละเอียดทั้งหมด -> เมื่อวันที่ : 2021-08-13 10:23:41




แชร์ประสบการณ์ นั่งสมาธิ ให้ได้นานๆ + พัฒนาระดับความก้าวหน้าของสมาธิและสภาวะรู้



บันทึกวันที่ : 7/10/2560

แชร์ประสบการณ์ นั่งสมาธิ ให้ได้นานๆ + พัฒนาระดับความก้าวหน้าของสมาธิและสภาวะรู้

ผมเชื่อว่าทุกคนที่ฝึกสมาธิก็อยากฝึกสมาูธิให้ได้นานๆ อยากให้มีความก้าวหน้าของสมาธิในทุกๆวันที่ทำการฝึกฝน

ผมเองก็เช่นกัน ที่ฝึกสมาธิทุกวันโดยอยากให้มีความก้าวหน้าของสมาธิ

ซึ่งนั่นก็คือ การนั่งสมาธิให้ได้นานๆ อาจจะเป็นคำตอบที่ดีก็ได้

แต่ใครจะไปรู้ ว่าการนั่งสมาธิให้นานๆเกินกำลังของร่างกายและขีดจำกัดนั้น กลับทำให้สมาธิถดถอยลงตามกำลังของร่างกายที่จะทนความปวดเมื่อยไหว

เมื่อร่างกายยิ่งเมื่อยเท่าไหร่ สภาพของจิตที่สงบจะุถูกบั่นทอนและเมื่อยล้าไปตามๆกัน

ไม่ว่าผมหรือใครๆที่เคยฝึกสมาธิมาก็ต้องเจอปัญหานี้เหมือนๆกันอย่างแน่นอน

วันนี้ผมมีเทคนิคมาแชร์กัน ที่จะสมาธิทำให้เรานั่งสมาธิได้นานขึ้นและสามารถพัฒนาสมาธิที่สงบ + สภาวะรู้ที่ชัดเจนได้ยิ่งขึ้น

------------------

เกริ่นนิดหน่อย

ผมเคยสงสัยว่า ทำไมเราฝึกสมาธิมาเป็นปี แต่เราไม่เคยนั่งเกิน 1 ชั่วโมงเลย

อาจะจะมีฟลุ๊คบ้าง ก็แค่ 1 ชั่วโมงนิดๆ

แต่มันเป็นการนั่งแบบฝืนทนให้มันได้เวลานานๆมากกว่าที่จะได้รู้อะไรกว่านั้น

อะไรคือกำแพงที่กั้นเราไม่ให้เรานั่งนาน

นั่งวิเคราะห์อยู่สักพัก ก็เดาว่าน่าจะเป็นความปวดเมื่อยนี่เอง

ดังนั้น เราจะมาทำลายกำแพงตรงนี้กัน

--------------------

เทคนิคการนั่งสมาธิให้ได้นานๆ เกินขีดจำกัดเดิมที่เราเคยนั่งมา

- เริ่มนั่งสมาธิกันเลย

- เข้าใจตรงกันก่อนครับว่า...ฐานของสมาธิในการฝึกของผมคือการกำหนดรู้ลมหายใจ (ส่วนใครจะพุทโธก็ได้ แล้วแต่สะดวกนะครับ)

- ผมเริ่มจากรู้ลมหายใจ เข้า - ออก (ด้วยการรู้ ไม่ใช่การเพ่ง)

- ลมหายใจเข้าก็รู้ ลมหายใจออกก็รู้ โดยไม่ไปดูสายลมหายใจ แต่แค่รู้ว่าเรากำลังหายใจ ยาวบ้าง สั้นบ้าง ก็รู้ไปอย่างนั้นแหละ

- ลมหายใจนั้นไม่ใช่เรา แต่กำลังถูกรู้ด้วยวิญญาณขันธ์ (กำหนด รู้ ลมหายใจ)

- รู้ลมหายใจแบบต่อเนื่อง ด้วยสภาวะรู้ที่เป็นกลาง ไม่มีการเร่ง ไม่มีการบังคับ ทุกอย่างให้เป็นของมันอย่างนั้น เป็นไปตามธรรมชาติ

- ถ้าทำถูกต้อง คุณจะเข้าใจด้วยตัวคุณเอง แล้วคุณจะกำหนดสภาวะรู้แยกขันธ์ออกได้อย่างชัดเจน  ลมหายใจ  และ การรับรู้   (รูปขันธ์ และ วิญญาณขันธ์)

- แน่นอนว่า การนั่งสมาธิ มันต้องมีการนึกๆ คิดๆ ขึ้นมา ทำให้เราเกิดความฟุ้งซ่าน

- หากเกิดความฟุ้งซ่าน คิดถึงคนรัก , คิดถึงศัตรู , คิดถึงเรื่องงาน , คิดถึงเรื่องเงิน , คิดถึงเรื่องไปเที่ยว , และคิดถึงอีกมากมาย

- ให้ทิ้งการรู้ลมหายใจ (ทิ้งคือการไม่กำหนดรู้ลมหายใจ ปล่อยให้มันหายใจไปอย่างนั้นแหละ)

- แต่เรามากำหนดรู้ที่ความฟุ้งซ่านแทน ให้เรารู้ว่าเรากำลังฟุ้งซ่านอยู่ เห็นการปรุงแต่งของจิตที่มันกำลังก่อตัวแล้วสร้างเป็นเรื่องราว โดยเราไม่เข้าไปยุ่งกับมัน แต่เรารู้อยู่

- จิตมันปรุงแต่งของมันเอง มันไม่ใช่เรา แต่มันกำลังถูกรู้ (วิญญาณ รู้ สังขารขันธ์)

- ตามธรรมชาติ ถ้ามันถูกรู้ มันจะแสดงความจริง คือความปรุงแต่งของจิตมันจะค่อยๆหายไป (เราก็ได้ชื่อว่าเป็นผู้เห็นการเกิดดับของ "สังขารขันธ์" แล้ว)

- เมื่อความฟุ้งซ่านหายไปแล้ว ให้กำหนดรู้ที่ลมหายใจต่อเหมือนเดิมที่กล่าวไว้ข้างต้น

- มันจะเป็นสลับแบบนี้ไปเรื่อยๆ โดยที่เราไม่ต้องไปยึดติดหรือกังวล คืออะไรเด่นให้เรารู้อันนั้นก่อน พอมันหายไปเราก็กลับมาที่ฐานของเรา นั่นคือรู้ลมหายใจ

- อีกอุปสรรคนึง นั่นคือเสียงรบกวนจากภายนอก ก็ทำเหมือนกันนะครับ หากเสียงมันดังรบกวนจนเด่นชัด เราก็รู้มัน เสียงที่ได้ยินไม่ใช่เรา แต่มันกำลังถูกรู้

- ถ้าเสียงไม่รบกวนเราแล้ว ก็กลับมาที่ฐานของเรา คือรู้ลมหายใจ

---- ** จบพื้นฐานแล้วนะ ต่อมาจะสอนการกระโดดข้ามกำแพงในการนั่งสมาธิให้นานกว่าเวลาที่เราเคยนั่ง เป็นการทำลายสถิติตัวเองแบบมีสติรู้

- นั่งไปนานๆ เริ่มจะเมื่อยแล้วนะ เหน็บชาบ้าง  เมื่อยขาบ้าง เมื่อยก้นบ้าง และอีกต่างๆมากมาย

- ให้รู้ไว้เลยนั่นแหละของดี เราจะเอาสิ่งเหล่านั้นมาพิจารณา เพื่อพัฒนาสภาวะรู้และการแยกขันธ์ให้ชัดเจน

- เมื่อเราเมื่อยตรงไหน ให้เราโฟกัสที่ตรงนั้น (เหมือนกับเราล็อคเป้าหมายอ่ะนะ)

- ทิ้งการกำหนดรู้ลมหายใจและอื่นๆทั้งหมด และมากำหนด(รู้)ความรู้สึกที่ความปวดตรงนั้น

- วิธีกำหนดรู้คือ ความปวดไม่ใช่เรา มันปวดก็รู้ว่าปวด ความปวดกับร่างกายก็คนละส่วนกัน มันก็เป็นของมันอย่างนั้นแหละ (ความรู้สึกปวด จัดอยู่ใน หมวดหมู่เวทนาขันธ์)

- ให้เราแยกให้ออก แรกๆอาจจะยากสักนิด แต่ถ้าตั้งใจแล้ว ต้องทำได้แน่ๆ ถ้าทำได้เราจะสามารถข้ามขั้นในการแยกสภาวะรู้ได้อย่างชัดเจนเลย (สมาธิที่เห็นนิมิตแสงสว่างชัดเจนผมพัฒนามาจากการฝึกตรงนี้แหละ)

- ถ้ากำหนดสภาวะรู้ผิดวิธี มันจะกลายเป็นเราปวด และเราจะทนไม่ไหว แล้วเราก็นั่งสมาธิแบบทนทุกข์ทรมานกับความปวดนะครับ (ตรงนี้สำคัญมากๆ)

- ถ้าทำถูกต้อง ความปวดจะไม่ใช่เรา มันจะแสดงความปวดให้เห็น มันจะมีระดับที่เปลี่ยนแปลงไม่เท่าเดิม ความปวดไม่คงที่ (แล้วคุณจะพบอะไรดีๆ ในการฝึกแยกสภาวะรู้จากตรงนี้)

- นี่ไม่ใช่การนั่งทนความปวดนะ แต่เป็นการกำหนดรู้ความปวด ที่แยกออกมาจากกาย ความปวดก็เป็นความปวด ไม่ใช่ร่างกาย และไม่ใช่เราด้วย

- เมื่อความปวดมันแสดงความจริง คุณจะเห็นได้เลยว่า ความปวดตรงที่โฟกัสมันหายไป ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ปวดมากมาย (ใครถึงตรงนี้แล้วจะรู้เองนะ)

- แต่อย่าเพิ่งดีใจว่าความปวดมันจะหายไป มันจะหายไปพักนึง แต่บางทีก็นานนะ เดี๋ยวมันก็กลับมาอีก เราก็ตามรู้กันไป เพราะนี้คือการฝึกนี่นา

- และแน่นอนว่าความปวดมันไม่ได้ปวดอยู่ที่เดียวแน่นอน ให้เราโฟกัสตรงที่ปวดที่สุดก่อน หรือมันปวดรวมๆ เราก็ตามกำหนดรู้ความปวดแบบรวมๆก็ได้ แล้วแต่ใครจะถนัดแบบไหน

- และถ้าความปวดหายไป ให้กลับมาที่ฐานของสมาธิคือกำหนดรู้ลมหายใจ หรือกรณีลมหายใจแผ่วเบามากๆ ก็ไม่ต้องไปควานหา ให้รู้สภาวะอะไรก็ที่ที่เด่นที่สุด ถ้าไม่มีก็กำหนดรู้การวางเฉย

- ถ้าทำตรงนี้ได้ แน่นอนว่าคุณสอบผ่าน และทำลายสถิติการนั่งสมาธิในครั้งก่อนๆของคุณได้ทั้งหมด พร้อมกับได้สภาวะรู้ที่ชัดเจนมากว่าเดิมหลายๆเท่า

----** สาระ เพิ่มเติม
ความรู้สึกปวด คือ เวทนา
ความรู้ ว่ารู้สึกปวด คือ จิต
พยายามแยกให้ออกนะครับ มันคือคนละตัวกัน

----- ** สิ่งที่น่าสนใจ

- เวลาที่ความปวดถูกรู้ เรากลับไม่เป็นทุกข์ เราพอใจที่จะรับรู้ความปวดนั้นแบบสงบจิตสงบใจ

- ความปวด ไม่ทำให้เราฟุ้งซ่าน ทำให้จิตเราพร้อมกำหนดอยู่ที่ตรงนั้นจนเกิดสมาธิที่แนบแน่น

- ความปวดก็ยังแสดงความไม่เที่ยง สามารถหายไปได้ เพียงเรากำหนดรู้  (ทั้งๆที่การนั่งท่าเดิมๆโดยไม่ขยับเลยมันน่าจะต้องปวดยิ่งขึ้นมากกว่าเดิมสิ)

- จะเกิดอะไรขึ้นถ้าเราฝึกแยกสภาวะรู้แยกความปวดเมื่อยจากร่างกายจนชำนาญ (คิดเล่นๆว่า ถ้าวันนึงเราป่วย หรือบาดเจ็บหนักๆมาก เราก็จะไม่ทุกข์ทรมานกับความเจ็บปวดจนเกินไป ความเจ็บปวดยังอยู่เหมือนเดิม แต่เรารับรู้ด้วยจิตใจที่สงบนิ่ง)

- การฝึกนี้ถ้าคุณทำได้จริงๆ การฝึกสมาธิรอบถัดๆไป คุณกำหนดสภาวะรู้ต่างๆ เช่นลมหายใจ และความฟุ้งซ่าน ได้อย่างชัดเจนและแม่นยำมากยิ่งขึ้น

- การฝึกนี้ถ้าทำถูกต้องจริงๆ คุณสามารถเห็นนิมิตแสงสว่างได้จากการฝึกสมาธิครั้งถัดๆไป (ผมก็เห็นแสงสว่่างจากการฝึกนี้แหละ)

- การฝึกนี้ถ้าทำถูกต้องจริงๆ  คุณจะไม่รำคาญสิ่งใดเลยในขณะนั่งสมาธิ แม้แต่เสียงรบกวนก็ตามแต่ คุณพร้อมที่จะยอมรับแล้วนำมาพิจารณาให้การการพัฒนาในด้านของสมาธิต่อไปเรื่อยๆ

หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่กำลังฝึกสมาธิและต้องการพัฒนาให้สมาธิของคุณมีความกว้างหน้าแบบสามารถต่อยอดไปได้อีกครับผม




ดูรายละเอียดทั้งหมด -> เมื่อวันที่ : 2021-02-27 21:41:57




อาการของ ลมหายใจแผ่วเบา ลมหายใจละเอียด ในการทำสมาธิ เป็นอย่างไร





อาการของ ลมหายใจแผ่วเบา ในการทำสมาธิ เป็นการที่จะเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติเมื่อจิตมีความสงบนิ่ง ลมหายใจแผ่วเบาหรือลมหายใจละเอียดจะมาพร้อมกับจิตที่ละเอียดขึ้นตามกำลังของสมาธิ ผู้ฝึกฝนจะรู้สึกผ่อนคลาย ในขณะที่ลมหายใจจากที่เคยหายใจตามปกติ(ในที่ที่นี้ขอเรียกว่าลมหายใจยาว) แต่เมื่อใดก็ตามที่จิตเริ่มสงบลง ลมหายใจมันจะค่อยๆสั้นลงอย่างปราณีต ซึ่งไม่ใช่การบังคำให้ลมสั้นและมันจะสั้นเองตามธรรมชาติ

ลมหายใจที่สั้นลงแต่มีความเบาคล้ายๆกับว่าค่อยจะได้หายใจ แต่จริงๆแล้วก็ยังหายใจอยู่ บางคนทำสมาธิอยู่ดีๆลมหายใจหายไปซะเฉยๆจนคิดว่าตนเองไม่ได้หายใจแล้วก็มี (ในที่นี้กล่าวถึงสมาธิระดับต้นที่ไม่ใช่ระดับฌาณ4)

สรุป :  ลมหายใจแผ่วเบา ลมหายใจละเอียด จะมีอาการคล้ายๆกับร่างกายไม่ค่อยหายใจ หรือหายใจเอาแค่ลมเค้ามานิดเดียวก็รู้สึกอิ่ม รู้สึกดี รู้สึกเพียงพอแล้ว ความรู้สึกถึงสายลมจะเบาบางและแตกต่างมากเมื่อเทียบกับการหายใจปกติในขณะที่ไม่ได้ทำสมาธิ

การที่ลมหายใจละเอียดจะนำไปสู่การเข้าฌาณในระดับต้นได้ ดังนั้นหากคุณสามารถเข้าถึงสภาวะเหล่านั้นได้ให้พยายามฝึกฝนต่อไป


 



ดูรายละเอียดทั้งหมด -> เมื่อวันที่ : 2021-01-09 15:59:03




MUSE 2 : Headband เครื่องช่วยนั่งสมาธิ แสดงการวัดผลกราฟคลื่นสมอง
















MUSE 2 : Headband เครื่องช่วยนั่งสมาธิ แสดงการวัดผลกราฟคลื่นสมอง

MUSE 2 : Headband เครื่องช่วยนั่งสมาธิ แสดงการวัดผลกราฟคลื่นสมองของคุณในขณะที่คุณกำลังทำสมาธิอยู่ เครื่องนี้จะช่วยทำให้คุณทราบได้อย่างง่ายดายว่าแท้จริงแล้วคุณทำสมาธิถูกต้องหรือไม่ การวัดผลนั้นเป็นแบบสากลมีความมาตรฐานและสามารถเชื่อถือได้ ทำให้ชาวต่างชาติที่ชื่นชอบในการทำสมาธิต่างก็ใช้เครื่อง Muse ช่วยวัดผลลัพธ์เพื่อการทำสมาธิที่ก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว

ในประเทศไทยนั้นการทำสมาธิมีอยู่คู่กับศาสนาพุทธมาเป็นเวลายาวนาน ผู้ที่ปฏิบัติธรรมส่วนใหญ่มักจะหันมาฝึกฝนในด้านการทำสมาธิเพื่อให้ได้กำลังจิตที่เข้มแข็งและสามารถนำไปสู่การเอาชนะกิเลสและฝึกปัญญาตาคำสั่งสอนในอริยมรรคมีองค์ 8 ของพระศาสดาได้

แต่การฝึกสมาธินั้นเป็นเรื่องทางจิตที่สามารถแสดงให้ใครเห็นได้เหมือนการสร้างสรรค์ผลงานอย่างอื่น ซึ่งการสอบถามแนวทางการฝึกฝนจึงต้องเป็นการบอกเล่าอาการในสมาธิให้กับครูบาร์อาจารย์ช่วยชี้แนะ
และเนื่องจากอาการของสภาวะต่างๆในการทำสมาธิมีหลากหลาย ถึงแม้อาจารย์่ท่านจะแนะนำแนวทางที่ดีมาให้กับเราแต่เชื่อเถอะว่าอีกไม่นาน คุณก็ยังกลับไปสงสัยและไม่แน่ใจสิ่งที่ตนเองฝึกฝนอยู่ดี

Muse Headband เครื่องช่วยนั่งสมาธิ จะช่วยเป็นตัวกลางในการต่อโจทย์ซึ่งอ้างอิงจากหลักการทางวิทยาศาสตร์ที่นำเทคโนโลยีการตรวจวัดคลื่นสมองที่ใช้ในทางการแพทย์เข้ามาตรวจวัดผ่านเครื่องอุปกรณ์ Muse ขนาดเล็กที่ใช้งานได้ง่ายและสะดวก จนทำให้คุณสามารถเรียนรู้ความสัมพันธ์ระหว่างจิตสงบ จิตฟุ้งซ่าน และคลื่นสมองที่เปลี่ยนแปลงไปตามจิตในขณะที่กำลังนั่งสมาธิ


MUSE 2 : Headband

-  ใช้สำหรับวัดผลของการทำสมาธิ
-  ใช้งานได้ทั้งผู้ที่เริ่มฝึกสมาธิและผู้ที่มีความชำนาญด้านสมาธิ
-  แสดงผลลัพธ์ออกมาเป็นรูปคลื่นกราฟที่เข้าใจได้ง่าย
-  ใช้หลักการวัดผลจากคลื่นสมอง
-  Muse2 เป็นเวอร์ใหม่ที่พัฒนาต่อยอดมาจาก Muse1
-   เพิ่มฟังก์ชั่น ตรวจจับความผ่อนคลายของท่าทางการนั่งสมาธิ
-   เพิ่มฟังก์ชั่น ตรวจจับการเต้นของหัวใจในระหว่างนั่งสมาธิ
 -  เพิ่มฟังก์ชั่น ตรวจจับลมหลายใจระหว่างที่นั่งสมาธิ

MUSE 2 เป็นเครื่องช่วยนั่งสมาธิที่พัฒนาต่อยอดมาจาก Muse รุ่นแรก ซึ่งเพิ่มการตอบโจทย์ให้กับผู้ที่ฝึกสมาธิมากยิ่งขึ้น เสริมฟังก์ชั่นการทำงานที่เพิ่มขึ้นเพื่อช่วยเหลือผู้ที่เริ่มฝึกฝนสมาธิได้เข้าสู่จิตสงบได้ง่ายขึ้น โดย Muse รุ่นแรกจะมีขีดความสามารถที่วัดผลได้เฉพาะคลื่นสมอง ซึ่งเหมาะกับผู้ที่ฝึกสมาธิมานานหรือผู้เชี่ยวชาญด้านสมาธิมากกว่าผู้ที่เริ่มฝึกสมาธิ เพราะกราฟจะตอบโจทย์พวกเขาได้ว่าฝึกสมาธิได้ผลจริงหรือไม่ตามกราฟที่แสดง

แต่เนื่องด้วยการทำสมาธิที่ต้องอาศัยพื้นฐานของลมหาย , ท่าทางการนั่งที่ถูกต้อง จึงจะทำให้การฝึกสมาธิก้าวสู่ขั้นสูงได้อย่างง่ายยิ่งขึ้นได้ทำได้ถูกต้อง และ Muse 2 นี้ก็เพิ่มฟังก์ชั่นการตรวจวัดลมหายใจและตรวจจับท่่าทางการนั่งเพื่อช่วยผู้ที่ฝึกฝนสมาธิสามารถฝึกได้ถูกต้องยิ่งขึ้น และ Muse 2 เองก็ยังเพิ่มฟังก์ชั่นการตรวจวัดการเต้นของหัวใจได้ด้วย เพราะการเต้นของหัวใจนั้นจะแปรผันตรงกับจิตที่สงบ ถ้าการเต้นของหัวใจสมดุลคุณตได้รับสุขภาพที่แข็งแรงตามซึ่งเป็นผลพลอยได้จากการทำสมาธิ

MUSE 2 : Headband เครื่องช่วยนั่งสมาธิจัดได้ว่าเป็นเทคโลยีอีกตัวหนึ่งที่ได้รับความนิยมอย่างมากทั่วโลกอีกทั้งยังช่วยให้ผู้ที่ทำสมาธิสามารถฝึกฝนได้อย่างถูกต้อง มีเหตุมีผล และไม่ได้คิดไปเองว่าฉันฝึกสมาธิสงบ เพราะผู้คนโดยมากฝึกสมาธิคิดว่าตนเองสงบแล้วแต่กลับไม่รู้ถึงความคิดที่เกิดขึ้นฟุ้งซ่านในหัวของตนเอง เครื่อง Muse 2 นี้แหละที่จะบอกความจริงกับคุณไม่ได้ลองใช้มัน

ภาพตัวอย่าง : กราฟวัดผลคลื่นสมองด้วย Muse






หากท่านใดสนใจสั่งซื้อ Muse 2 ก็สั่งซื้อกับผมได้นะครับ

สำหรับท่านที่ต้องการสั่งซื้อ Muse 2

หากท่านใดสนใจสามารถสั่งซื้อกับผมได้ ส่ง Kerry เก็บเงินปลายทางครับ
ระยะเวลาจัดส่ง 1 - 2 วัน ของถึงมือท่านรวดเร็วแน่นอน


สินค้านำเข้าจากโรงงานผู้ผลิตต่างประเทศโดยตรง
สินค้ามีบรรจุภัณฑ์สวยงาม ถูกแพ็คและหุ้มด้วยพลาสติกอย่างดี




ดูรายละเอียดทั้งหมด -> เมื่อวันที่ : 2020-12-27 08:18:23




รีวิวกราฟสมาธิ คลื่นสมอง ของลูกค้า ที่ใช้ Muse2 เครื่องช่วยฝึกสมาธิ


รีวิวกราฟสมาธิ คลื่นสมอง ของลูกค้า ที่ใช้ Muse2 เครื่องช่วยฝึกสมาธิ เพื่อให้ผู้ที่สนใจในด้านการฝึกสามาธิได้ดูเป็นแนวทางเป็นตัวอย่างและเพื่อเป็นกำลังใจในการฝึกฝนสะสมกำลังสมาธิ - กำลังจิตกันต่อไป ซึ่งกราฟนี้ลูกค้าได้แชร์ข้อมูลแบ่งปันเพื่อเป็นแนวทางการศึกษาของผู้ที่ใช้เครื่อง Muse ในการทำสมาธิเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีเยี่ยมที่สุด



จากข้อมูลของกราฟจะเห็นได้ว่าการวัดผลคลื่นสมองออกมามีกราฟที่ค่อนข้างเรียบ รักษาความสม่ำเสมอของเส้นกราฟได้เป็นอย่างดีตลอดเวลา 15 นาทีในการเข้าสมาูธิ และกราฟโดยรูปแทบจะอยู่ในโซนสงบทั้งหมด ผมเชื่อว่าผู้ฝึกท่านนี้ต้องฝึกฝนสมาธิจนชำนาญมากแล้ว และสามารถโน้มนำจิตให้สงบได้ทันทีตั้งแต่วินาทีแรกๆของการเข้าสมาธิ ซึ่งเราสังเกตได้จากเส้นกราฟที่แสดง

การทำสมาธิให้ได้ผลลัพธ์กราฟออกมาเช่นนี้ ส่วนตัวบอกเลยว่าไม่ง่ายเลย ซึ่งผมเองถึงแม้จะฝึกสมาธิมานานและเคยทำสมาธิได้กราฟในลักษณะนี้บ้าง แต่ก็ไม่ทุกครั้งเสมอไป เพราะในช่วงที่เวลาเรากำลังทำสมาธิหากเราแว๊บไปคิดนิดเดียวจนหลุดออกจากฐานของจิตที่เราตั้งไว้ในการภาวนา มันจะทำให้กราฟดีดขึ้นทันที และโดยมากเวลาเผลอไปคิดแล้วมันก็จะคิดต่อไปเรื่อยๆ จนกราฟวิ่งกระชากขึ้นลงไม่คงที่  

แต่สำหรับการของท่านที่ได้นำมาแชร์นี้ เขามีบางเสี้ยววินาทีที่เผลอหลุดจากฐานของการภาวนา เราจึงเห็นภาพกราฟที่กระชากขึ้นสูงเลยโซนสงบขึ้นไป แต่นั้นก็เป็นเพียงเวลาแค่เสี้ยววินาทีเขาก็สามารถดึงจิตกลับมาที่ฐานของสมาธิได้แล้ว จัดได้ว่าท่านลูกค้าผู้นี้มีความเก่งและมีกำลังจิตมาที่สามารถควบคุมจิตของตนเองให้เข้าสู่สภาวะสงบได้ตามความต้องการ

นี่ก็คือเครื่องมือที่จะช่วยให้วงการของการฝึกสมาธิก้าวหน้าและสามารถวัดผลออกมาได้แบบรูปธรรม ซึ่งไม่ใช่การคิดไปเองว่าสงบแต่คลื่นสมองที่ถูกตรวจจับค่าได้จะฟ้องออกมาในรูปแบบของกราฟ










Muse2 เป็นเครื่องมือที่ช่วยทำสมาธิซึ่งได้รับการนิยมอย่างมากหลากหลายประเทศ เป็นเครื่องมือที่ได้มีการวิจัยและได้ทดสอบสอบกับผู้คนในวงการสมาธิมากมายทั่วโลกจนเป็นที่ยอมรับในความแม่นยำของการตรวจวัดค่า ส่วนตัวผมเองก็ขอยืนยันอีกเสียงนึงว่าเครื่องนี้เค้าวัดค่าได้แม่นยำจริงๆครับ

เชื่อเถอะว่ามีผู้คนที่สนใจการฝึกสมาธิอีกจำนวนมากที่อยากลองใช้เครื่อง Muse2 นี้ในการช่วยฝึกฝนและการตรวจวัดค่าความสงบในระหว่างการนั่นสมาธิ แต่ด้วยเหตุปัจจัยบางอย่างทำให้ผู้คนเข้าถึงอุปกรณ์ชิ้นนี้ได้ยาก ซึ่งนั่นก็คือราคาที่แพงแตะหลักหมื่น แต่หากใครพอจะมีกำลังเงินในการซื้อผมเชื่อว่ามันตอบโจทย์อย่างมากและคุ้มค่ากับการฝึกสามาธิในระดับที่ก้าวกระโดดได้อย่างถูกต้องมีเหตุมีผลตรงไปตรงมา

หากท่านใดต้องการสั่งซื้อ Muse2 กับเราสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมกับเราได้ตามเบอร์โทรที่ปรากฎอยู่บหน้าเว็บไซต์แห่งนี้




 



ดูรายละเอียดทั้งหมด -> เมื่อวันที่ : 2020-09-15 11:30:37




ขาย Muse สมาธิ มือสอง ราคา 4500 บาท ใช้สำหรับวัดผลการทำสมาธิ




ขาย Muse สมาธิ มือสอง ราคา 4500 บาท ใช้สำหรับวัดผลการทำสมาธิ

ขาย Muse สมาธิ มือสอง ราคา 4500 บาท ใช้สำหรับวัดผลการทำสมาธิของคุณได้อย่างแม่นยำ เครื่อง Muse จะแสดงผลลัพธ์ออกมาในรูปแบบของกราฟที่สามารถอ่านและเข้าใจง่าย

เหตุผลที่ผมต้องขาย Muse เครื่องนี้เพราะ ผมได้ซื้อ Muse2 ตัวใหม่มาทดลองใช้งานเพื่อวัดผลการทำสมาธิ เนื่องจาก Muse2 มีฟังก์ชั่นบางอย่างในการตรวจวัดเพิ่มขึ้นมานอกเหนือจากการวัดคลื่นสมอง
นั่นก็คือ การตรวจจับการเต้นของหัวใจ , การตรวจจับลมหายใจ , การตรวจจับท่าทางการนั่ง เป็นต้น และแน่นอนว่าราคาสูงกว่า Muse รุ่นก่อนมาก



และเมื่อผมได้ทำการซื้อ Muse2 มาเริ่มใช้งานแล้ว ก็ทำให้ Muse เครื่องเดิมวางไว้เฉยๆก็เลยอยากจะขายให้ผู้ที่สนใจทำสมาธิจริงๆได้ใช้เครื่อง Muse ในราคาที่ถูกลงมากว่าราคาของใหม่

เครื่อง Muse ที่ผมจะขายนั้นมีอะไรบ้าง
- กล่อง
- เครื่อง Muse
- สายชาร์ท
- คู่มือการใช้งาน

------

หากคุณทำสมาธิแต่คุณก็จะยังไม่รู้เลยว่าที่คุณทำสมาธิอยู่ในทุกวันนั้นคุณสงบจริงหรือไม่ เพราะโดยมากแล้วคนเรามักจะเข้าข้างตนเองเสมอว่าฉันทำสมาธิแล้วสงบดี แต่แท้จริงแล้วความฟุ้งซ่านยังปรากฎอยู่ในทุกลมหายใจ แต่คุณไม่รู้ตัว

ซึ่งเครื่อง Muse จะสามารถตรวจวัดคลื่นสมองและให้คำตอบกับคุณอย่างตรงไปตรงมา เพราะสมาธิเป็นเรื่องทางจิตซึ่งส่งผลร่วมกับคลื่นสมอง ถ้าใจสงบคลื่นสมองก็สงบตามนั่นเอง

หากคุณมีความรักและความชอบในการฝึกฝนในด้านสมาธิ Muse จะช่วยวัดผลและเก็บสถิติการทำสมาธิของคุณ เพื่อให้คุณทราบผลลัพธ์ในการฝึกฝนอย่างตรงไปตรงมานำไปสู่การก้าวหน้าของด้านการฝึกอย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น

และนี่คือตัวอย่างรูปภาพกราฟคลื่นสมองที่ขณะทำสมาธิ ถ้าเรามีจิตที่สงบ กราฟคลื่นสมองก็จะลงต่ำและมีลักษณะค่อนข้างราบเรียบเป็นระเบียบ



















หากท่านใดสนใจสั่งซื้อ Muse2 ก็สั่งซื้อกับผมได้นะครับ

สำหรับท่านที่ต้องการสั่งซื้อ Muse2

Muse ราคาอยู่ที่ประมาณ 14,500  (รวมค่าภาษีอากรและค่าจัดส่งแล้ว)
หากท่านใดสนใจสามารถสั่งซื้อกับผมได้ ส่ง Kerry เก็บเงินปลายทางครับ
ระยะเวลาจัดส่ง 1 - 2 วัน ของถึงมือท่านรวดเร็วแน่นอน


สินค้านำเข้าจากโรงงานผู้ผลิตต่างประเทศโดยตรง
สินค้ามีบรรจุภัณฑ์สวยงาม ถูกแพ็คและหุ้มด้วยพลาสติกอย่างดี

 
 



ดูรายละเอียดทั้งหมด -> เมื่อวันที่ : 2020-08-10 11:05:33




ทดสอบ Muse เครื่องวัดสมาธิ ว่าสามารถวัดการทำสมาธิได้แม่นยำหรือไม่







ทดสอบ Muse เครื่องวัดสมาธิ ว่าสามารถวัดการทำสมาธิได้แม่นยำหรือไม่


ทดสอบ Muse เครื่องวัดสมาธิ ว่าสามารถวัดการทำสมาธิได้แม่นยำหรือไม่ ?  ซึ่งหลายๆท่านที่สนใจเครื่องวัดสมาธิ Muse และกำลังต้องการจะหาซื้อมาเพื่อใช้งานในการตรวจสอบสมาธิของตนนั้นสามารถเชื่อถือได้มากน้อยแค่ไหน ซึ่งวันนี้ผมก็จะมารีวิวกราฟคลื่นสมองที่ได้จากการวัดผลของเครื่อง Muse ในระหว่างการนั่งสมาธิเป็นเวลา 5 นาที เพื่อทดสอบดูว่าเครื่องสามารถทำงานได้แม่นยำเที่ยงตรงหรือไม่



ผมได้ทำสมาธิแบบกสิณน้ำ ซึ่งเป็นสมาธิแบบสมาถะโดยตรง มีจุดประสงค์ของการทำสมาธิเพื่อให้เกิดกำลังจิตสะสม และในขณะที่ผมกำลังทำสมาธิเพื่อกำหนดภาพน้ำนิมิตที่ใช้กำลังจิตผมสร้างขึ้นนั้น ภาพนิมิตน้ำก็มีความใสและบริสุทธิ์ ทำให้จิตสนใจแต่ภาพของน้ำใสนั้น สมองไม่คิดถึงเรื่องอื่นๆนอกจากน้ำใสๆที่เห็นในนิมิต , ลมหายใจเริ่มเบาบางลงในระยะเวลาเพียงไม่ถึงนาที  

ในขณะเดียวกันนั้นโทรศัพท์ที่เชื่อมต่อกับเครื่อง Muse ได้ส่งเสียงนกร้องจิ๊บๆๆๆๆ ต่อเนื่องอย่างไม่หยุด ซึ่งเป็นการทำให้ผมทราบได้ว่าเรากำลังคงสภาวะสมาธิสงบได้อย่างต่อเนื่อง

เมื่อผมทำสมาธิไปสักระยะหนึ่ง (ประมาณ 5 นาที) ในระหว่างที่เสียงนกกำลังร้องอยู่ต่อเนื่องนั้น ผมได้ทำการหยุดกำหนดภาพนิมิตน้ำใสและลองคิดเรื่องอื่นๆเพื่อให้จิตใจฟุ้งซ่าน ผลลัพธ์ที่ได้คือเสียงนกหายไป นั่นเป็นการทำให้เราทราบได้ว่าเครื่อง Muse สามารถวัดผลการทำสมาธิได้อย่างเที่ยงตรงและแม่นยำอย่างแน่นอน

สิ่งหนึ่งที่พบเจอ ::: ในขณะที่เสียงนกร้องต่อเนื่องช่วงที่จิตสงบ เมื่อผมเริ่มคิดฟุ้งซ่าน , เสียงนกจะไม่หยุดร้องทันที แต่จะหน่วงเวลาอยู่ประมาณ 2-3 วินาที ก่อนที่เสียงนกจะหายไป นั่นเป็นการสรุปได้ว่าเสียงนกที่ร้องนั้นเป็นการนำผลลัพธ์ของค่าคลื่นสมองของช่วงก่อนหน้าเวลาปัจจุบัน 2 -3 วินาทีมาแสดงผลนั่นเอง

สรุปผลการทดลองคือ เครื่อง Muse มีความเที่ยงตรงแม่นยำและสามารถเชื่อถือได้  จึงเหมาะกับผู้ที่รักการฝึกฝนสมาธิเพื่อทดสอบความก้าวหน้าทางการฝึกฝนได้เป็นอย่างดี และสามารถฝึกได้อย่างถูกต้องแน่นอนในรูปแบบของการทำสมาธิสมถะเพื่อเน้นให้เกิดทักษะด้านการฝึกกำลังจิตที่เข้มแข็ง




หากท่านใดสนใจสั่งซื้อ Muse 2 ก็สั่งซื้อกับผมได้นะครับ

สำหรับท่านที่ต้องการสั่งซื้อ Muse 2

หากท่านใดสนใจสามารถสั่งซื้อกับผมได้ ส่ง Kerry เก็บเงินปลายทางครับ
ระยะเวลาจัดส่ง 1 - 2 วัน ของถึงมือท่านรวดเร็วแน่นอน


สินค้านำเข้าจากโรงงานผู้ผลิตต่างประเทศโดยตรง
สินค้ามีบรรจุภัณฑ์สวยงาม ถูกแพ็คและหุ้มด้วยพลาสติกอย่างดี

 



ดูรายละเอียดทั้งหมด -> เมื่อวันที่ : 2020-04-23 12:15:10




รีวิว muse เครื่องทำสมาธิ จากประสบการณ์ของตนเอง

.


สวัสดีครับวันนี้ผมจะมา รีวิว Muse เครื่องทำสมาธิที่สามารถช่วยให้เราฝึกสมาธิได้ง่ายขึ้น มีการวัดผลให้คะแนนและการแสดงผลออกมาในรูปแบบของกราฟที่ดูแล้วเข้าใจง่าย เราสามารถประยุกต์ใช้งาน เครื่อง Muse ตั้งแต่การเริ่มต้นการฝึกสมาธิไปจนถึงขั้นสูงเพื่อตรวจสอบคลื่นสมองของเราว่ามีความสงบมากแค่ไหน

แชร์ประสบการณ์ นั่งสมาธิ ให้ได้นานๆ + พัฒนาระดับความก้าวหน้าของสมาธิและสภาวะรู้

เนื่องจากส่วนตัวแล้วผมเป็นที่ชอบการฝึกสมาธิเป็นชีวิตจิตใจ ทุกๆวันผมจะต้องฝึกสมาธิอย่างน้อยครึ่งชั่วโมง และการฝึกฝนอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานานกว่า 5 ปี ทำให้ผมได้รับความสงบสุขในสมาธิอย่างมาก และภายในสมาธิเองยังให้ประสบการณ์ต่างๆที่น่าเหลือเชื่ออีกมากมาย ซึ่งมีผลมากๆต่อการดำเนินชีวิตประจำวัน

แต่ผมเองก็อยากได้เครื่องมือทางวิทยาศาสตร์ที่สามารถตรวจสอบและยืนยันอีกทีนึงว่าที่เราทำสมาธินั้นหากวัดผลออกมาแล้วจะเป็นอย่างไรบ้าง และบังเอิญว่า Muse ก็เริ่มมีขายและมีคนจำนวนมากให้ความสนใจและซื้อใช้งาน ผมจึงไม่รอช้าและทำการสั่งซื้อ Muse มาใช้งานดูบ้าง

เนื่องจากเครื่อง Muse ในประเทศไทยนั้นหาซื้อได้ยากมากๆ ผมจึงจำเป็นต้องซื้อ Muse จากต่างประเทศ  

และแล้ว สินค้าก็ส่งมาถึงบ้าน เมื่อแกะกล่องออกมา

ภายในกล่องประกอบด้วย

- เครื่อง Muse HeadBand
- สายรัดผม (สำหรับคนผมยาว)
- คู่มือ
- สายชาร์ต
- สติ๊กเกอร์ Muse






สินค้าถูกแพ็คกล่องและหุ้มพลาสติกมาอย่างดี บรรจุภัณฑ์สวยงาม เพื่อผมหยิบเครื่อง Muse ขึ้นมานั้นมีน้ำหนักเบามากๆ วัสดุที่นำมาสร้างขึ้นโครงนั้นมีความแข็งแรงแต่ยืดหยุด คือไม่สามารถแตกหักได้ง่ายๆนั่นเอง สำหรับในด้านของการนำมาใช้งานก็ใช้ง่ายมากๆเพียงแค่โหลด แอพ Muse มาติดตั้งในเครื่อง ซึ่งแอพรองรับทั้งระบบ Android และ IOS จึงทำให้รองรับกับโทรศัพท์ทุกรุ่น

เมื่อผมนำเครื่อง Muse คาดหน้าผากรู้สึกว่ามีความกระชับพอดีและไม่มีบีบรัด ทำให้เรารู้สึกเหมือนไม่ได้ใส่อะไรไว้บนศีรษะ  จากนั้นผมก็ไม่รอช้าเริ่มเข้าสู่โหมดการทำงานของ Muse เพื่อเริ่มฝึกสมาธิและวัดคลื่นสมอง



เมื่อเรากดที่มือถือเพื่อให้เริ่มทำงาน - เครื่อง Muse จะเริ่มทำการตรวจสอบว่าเราคาดหน้าผากถูกต้องหรือไม่ ถ้าถูกต้องแถบสีบนหน้าจอโทรศัพท์จะแสดงแถบสีคงที่และจะค่อยบูตระบบจนครบ 100% ระหว่างที่รอบูตระบบจะมีเสียงผู้หญิงพูดอธิบาย เสียงฟังแล้วรู้สึกสงบดี

เมื่อพร้อมแล้วระบบก็จะเริ่มทำการจับเวลานับถอยหลัง ซึ่งช่วงนั้นเราก็เริ่มทำสมาธิได้เลยและเมื่อใดก็ตามที่เราฟุ้งซ่าน คิดโน่นนี่ จิตไม่สงบ จะทำให้เสียงแบล็คกราวดังขึ้น ในที่นี้ผมเลือกเสียงฝนตก และเมื่อใดที่จิตเราเริ่มสงบลงเสียงแบล็คกราว (เสียงฝน ซ่าๆ) ค่อยๆเบาและเงียบลงอย่างมาก แล้วก็จะมีเสียงนกร้องจิ๊บๆขึ้น นั่นเป็นสัญญาณบอกว่าช่วงขณะนั้นคลื่นสมองของเราสงบ

การที่จะให้ได้ผลลัพธ์ที่แน่นอนและถูกต้อง เราจะต้องสงบต่อเนื่องให้นกไม่หยุดร้อง  ถ้าเราทำได้แสดงว่า สอบผ่านการฝึกสมาธิ

หมายเหตุ : หากนกร้องแล้วเงียบไป ทิ้งช่วงสักพักแล้วมีเสียงนกร้องอีก แสดงว่าจิตเราไม่ได้สงบจริง แต่อาจมีช่วงผ่อนคลายของคลื่นสมองเล็กน้อยเท่านั้นซึ่งไม่จัดว่าเป็นการทำสมาธิจิตสงบ

เมื่อจบการวัดผล 5 นาทีตาที่เราได้ตั้งค่าไว้ บนหน้าจอโทรศัพท์จะแสดงผลลัพธ์ของกราฟออกว่าคลื่นสมองของเรามีความเรียบมากน้อยแค่ไหน หากกราฟยิ่งเรียบยิ่งสงบมาก ผ่อนคลายมาก

ผมขอแสดงกราฟในการทดสอบการฝึกสมาธิของผม















จะเห็นได้ว่า การทำสมาธิเมื่อเทียบกับการไม่ทำสมาธินั้นมีผลแตกต่างของกราฟ สั่งเกตที่รูปไอคอน นกสีฟ้า ด้านล่างของกราฟซึ่งบ่งบอกถึงคะแนนความสงบที่เราสามารถทำได้ในช่วงเวลานั้นๆ

สำหรับผู้ที่เริ่มฝึกสมาธิ
- ช่วยให้ฝึกสมาธิได้ง่ายขึ้น
- ลดความลังเลสงสัยในการทำสมาธิ
- สามารถเห็นความคืบหน้าของการฝึกได้
- ทำให้ผลลัพธ์ของการฝึกสมาธิออกมาในแบบรูปธรรม จับต้องได้ - สามารถแบ่งปันและแชร์กราฟกับเพื่อนๆได้

สำหรับผู้ที่มีความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับสมาธิ (ขั้นต่อยอดเพื่อพัฒนา ไปสู่ ฌาณ 4)
- วัดผลคลื่นกราฟ ว่าวางอารมณ์แบบไหนเข้าถึงความสงบได้ไว
- ฝึกต่อเนื่องจับจุดให้ได้ว่าทำอย่างไร คลื่นสมองและกราฟมีความเรียบ
- ฝึกเพื่อให้กราฟเรียบต่อเนื่องเป็นเวลานานๆ
- การฝึกนี้จะทำให้ก้าวข้ามขีดจำกัดแบบก้าวกระโดด และไม่ใช่สมาธิแบบ มโน ที่คิดไปเองว่าเราสงบ

ฌาณ 4 คืออะไร

ฌาณ 4 คือสมาธิระดับสูง ที่มีกำลังจิตมากมายมหาศาล เราสามารถนำกำลังจิตตรงนั้นมาทำอะไรได้หลายๆอย่าง ทั้งในทางโลกและทางธรรม สำหรับผู้ที่มุ่งสู่ทางธรรมะผมก็ขออนุโมทนาบุญล่วงหน้านะครับ
เพราะกำลังสมาธิใน ฌาณ 4 จะทำให้เรียนรู้เพื่อละกิเลสได้เร็วมากเมื่อน้อมกำลังสมาธิ ฌาณ 4 แบบสมถะ เข้าสู่โหมด ฌาณ 4 วิปัสนา

หากท่านใดสนใจสั่งซื้อ Muse ก็สั่งซื้อกับผมได้นะครับ

สำหรับท่านที่ต้องการสั่งซื้อ Muse

Muse ราคาอยู่ที่ประมาณ 8,500  (รวมค่าภาษีอากรและค่าจัดส่งแล้ว)
หากท่านใดสนใจสามารถสั่งซื้อกับผมได้ ส่ง Kerry เก็บเงินปลายทางครับ
ระยะเวลาจัดส่ง 1 - 2 วัน ของถึงมือท่านรวดเร็วแน่นอน


สินค้านำเข้าจากโรงงานผู้ผลิตต่างประเทศโดยตรง
สินค้ามีบรรจุภัณฑ์สวยงาม ถูกแพ็คและหุ้มด้วยพลาสติกอย่างดี

 



ดูรายละเอียดทั้งหมด -> เมื่อวันที่ : 2020-03-23 16:36:09